มีการพูดถึงการทำเกษตรอินทรีย์มากมาย แต่ในทางปฎิบัติแล้วใช่เกษตรอินทรีย์หรือไม่ หลายคนเข้าใจว่าการปลูกพืชอินทรีย์ คือการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ แต่ยังมีการใช้ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช หรือกระบวนการ อื่นๆ ที่มีสารเคมีซึ่งเหล่านี้ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์
การปฎิบัติการในแปลง เราเริ่มต้นที่เมล็ดพันธุ์
1.เมล็ดพันธุ์จะต้องไม่คลุกสารเคมี เช่นสารที่เป็นสีชมพูที่คลุกกับเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อป้องกันโรคและแมลงที่จะเข้ามาโจมตีเมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในการทำเกษตรอินทรีย์ หากจำเป็นต้องคลุกสาร ให้ใช้สารชีวพันธุ์จากธรรมชาติ เช่น Beaveria, Metarhizium,Trichoderma สำหรับ Trichoderma เป็นเชื้อราที่จะกำจัดเชื้อราด้วยกันเอง โดยจะกำจัดเชื้อราที่จะมาโจมตีเมล็ดพันธุ์
2.ห้ามใช้เมล็ดพันธ์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาชัดเจน สำหรับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ของเรานั้นจะใช้เมล็ดพันธุ์ที่ทางสหกรณ์เป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งจะรู้ว่าเมล็ดพันธ์ุนี้เอามาจากไหน จากผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์คือใคร โดยเรามีกลุ่มเกษตกรที่เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธ์ุซึ่งเป็นพันุธ์จำหน่ายให้กับเกษตกร
3.ห้ามใช้เมล็ดพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรม (GMO) ซึ่งเป็นการบิดเบือนธรรมชาติเพราะเกษตรอินทรีย์คือการทำการเกษตรที่ทำให้ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมมีความอุดมสมบูรณ์ การไปตัดต่อพันธุกรรม เป็นการกระทำที่ไม่ทำให้เป็นไปตามธรรมชาติ
4.ห้ามเกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีทุกชนิด ห้ามใช้ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ฮอร์โมน สารเร่ง สารสังเคราะห์ทุกชนิด และห้ามใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่ทราบส่วนผสมมาใช้เด็ดขาด เช่นห้ามเอายากำจัดปู กำจัดหอย ซึ่งต้องใช้การเก็บหอยหรือปูแทน สำหรับแมลงให้ใช้การจัดระบบนิเวศให้เหมะสมเช่น ตัวห้ำตัวเบียน ซึ่งเป็นแมลงศัตรูธรรมชาติ ทำให้แก้ปัญหาเรื่องแมลงได้
ปุ๋ยอินทรีย์ที่จะใช้ ต้องเป็นปุ๋ยที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์รับรอง เช่น IFOAM,EU Organic,USDA Organic แต่ถ้าเป็นใบรับรองโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งรับรองโรงงานเท่านั้น แต่ไม่ได้รับรองส่วนผสมของปุ๋ย เพื่อป้องกันการสับสน กลุ่มของเรามีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง โดยได้คัดกรองปุ๋ยที่ได้มาตรฐานอินทรีย์ ผ่านการประเมินมาใช้
โปรดติดตามตอนต่อไป หรือเรียนรู้เพิ่มเติมครบถ้วนแบบเจาะลึก จากวีดีโอได้ที่ >>>
Comments