ข้อบังคับเกษตรอินทรีย์ของ USDA อธิบายถึงการทำเกษตรอินทรีย์ เป็นชุดของการปฏิบัติทางวัฒนธรรม ชีวภาพและกลไกที่สนับสนุนวงจรของทรัพยากรในฟาร์ม ส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งรวมถึงการบำรุงรักษาหรือเสริมสร้างคุณภาพดินและน้ำ การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำป่าและสัตว์ป่า และหลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ กากตะกอนน้ำเสีย การฉายรังสีและ การดัดแปลงพันธุกรรม ข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลโดยย่อดังนี้
แนวทางปฏิบัติในการผลิตพืชอินทรีย์ความอุดมสมบูรณ์ของดิน: พืชสามารถต้านทานโรคได้ง่ายขึ้น รอดพ้นจากภัยแล้งและทนแมลงเมื่อปลูกในดินที่ดี ผู้ผลิตสร้างคุณภาพดินโดยการเพิ่มปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกสัตว์หรือปุ๋ยพืชสด เมื่อสิ่งมีชีวิตในดินแตกตัวเข้ามา พวกมันจะเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพืชที่สามารถดูดซับและสร้างซากพืชที่คงคุณภาพของดินไว้ ผู้ผลิตต้องไม่ใช้กากตะกอนน้ำเสียหรือ biosolids กับดิน นอกจากนี้ผู้ผลิตยังใช้พืชคลุมดินเพื่อปกป้องดินจากการกัดเซาะของลมและน้ำ
การใช้เมล็ดพันธ์ : ผู้ผลิตใช้เมล็ดพันธุ์อินทรีย์ในการทำเกษตรอินทรีย์ อย่างไรก็ตามหากไม่มีขายในท้องตลาด สามารถนำเมล็ดพันธ์ทั่วไปมาเพาะปลูกได้แต่เฉพาะในกรณีที่เมล็ดไม่ได้ถูกดัดแปลงทางพันธุกรรมหรือได้รับสารต้องห้าม เช่นสารฆ่าเชื้อรา เป็นต้น
การปลูกพืชหมุนเวียน: ผู้ผลิตปลูกพืชหมุนเวียน (หมุนพืชที่ปลูกในทุ่งนาหรือปลูกในแปลงตลอดเวลา) เพื่อขัดขวางวงจรชีวิตของแมลง หยุดพาหะของโรค ป้องกันการพังทลายของดินสร้างสารอินทรีย์ แก้ไขไนโตรเจนและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
การจัดการศัตรูพืช วัชพืชและโรค: การจัดการศัตรูพืชในฟาร์มเกษตรอินทรีย์อาศัยกลยุทธ์ 'PAMS': การป้องกัน, การหลีกเลี่ยง, การติดตาม และการปราบปราม การป้องกันและหลีกเลี่ยงเป็นสิ่งแรกของการป้องกันศัตรูพืช วัชพืชและโรค หากการปราบปรามศัตรูพืช หรือวัชพืชมีความจำเป็นผู้ผลิตมักจะใช้วิธีการเชิงกลไกและทางกายภาพ เช่นการปล่อยแมลงที่กินสัตว์อื่นเพื่อลดประชากรศัตรูพืช หรือการวางคลุมด้วยหญ้าหนา ๆ เพื่อกำจัดวัชพืช ทางเลือกสุดท้าย ผู้ผลิตอาจทำงานร่วมกับผู้รับรองอินทรีย์เพื่อใช้ยาฆ่าแมลงที่ได้รับการอนุมัติเช่น จุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ยาฆ่าแมลงที่ได้จากธรรมชาติหรือจากสารสังเคราะห์ที่ได้รับการรับรอง เป็นต้น
การรักษาความสมบูรณ์ของพืชอินทรีย์: ผู้ผลิตพืชอินทรีย์มีหน้าที่ป้องกันการสัมผัสระหว่างพืชอินทรีย์ กับพืชที่ปลูกทั่วไป เช่นเดียวกับการสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ยที่ต้องห้าม การดำเนินการแบบแยกส่วน (ฟาร์มที่เลี้ยงปลูกพืชออร์แกนิคและพืชทั่วไป) ต้องทำให้แน่ใจว่าพืชออร์แกนิคจะไม่สัมผัสกับสารต้องห้ามผ่านสเปรย์โดยไม่ตั้งใจจากเคมี หรือตกค้างบนอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้สำหรับฟาร์มอินทรีย์
ที่มา : USDA Organic /AMS
Introduction to Organic Practices of USDA - Organic Crop Production
The USDA organic regulations describe organic agriculture as the application of a set of cultural, biological, and mechanical practices that support the cycling of on-farm resources, promote ecological balance, and conserve biodiversity. These include maintaining or enhancing soil and water quality; conserving wetlands, woodlands, and wildlife; and avoiding use of synthetic fertilizers, sewage sludge, irradiation, and genetic engineering. Organic producers use natural processes and materials when developing farming systems these contribute to soil, crop and livestock nutrition, pest and weed management,attainment of production goals, and conservation of biological diversity. Organic Crop Production Practices Soil Fertility: Crops more easily resist disease, survive drought,and tolerate insects when grown in good soil. Organic crop producers build soil quality by adding compost, animal manures,or green manures. As soil organisms break down these inputs, they convert nutrients into forms plants can absorb and create humus that sustains soil quality. Organic producers must not apply sewage sludge or biosolids to soil. Additionally, organic crop producers use cover crops to protect the soil from wind and water erosion. Soil-conserving practices include the use of cover crops, mulches, conservation tillage, contour plowing, and strip cropping. Seeds and Planting Stock: Organic crop producers use organic seeds and planting stocks to protect the integrity of their crops. Organic growers may use conventionally grown seeds when an equivalent organic variety is not commercially available, but only if the seeds have not been genetically modified or treated with prohibited substances, such as fungicides. Crop Rotation: Organic crop producers practice crop rotation (rotating the crops they grow in a field or planting bed over time) to interrupt insect life cycles, suppress soil borne plant diseases, prevent soil erosion, build organic matter, fix nitrogen, and increase farm biodiversity. To effectively reduce insect and disease levels, farmers typically follow one crop with another from a different crop family, then wait a number of years before replanting the initial crop. While crop rotation is also practiced by many conventional farmers, organic producers are required to implement the practice by the USDA organic regulations. Managing Pests, Weeds, and Diseases: Pest management on organic farms relies on the ‘PAMS’ strategy: prevention, avoidance, monitoring and suppression. Prevention and avoidance are the first line of defense against pests, weeds, and diseases. If pest or weed suppression becomes necessary, producers often use mechanical and physical practices, such as releasing predatory insects to reduce pest populations or laying down a thick layer of mulch to smother weeds. As a last resort, producers may work with their organic certifier to use an approved pesticide, such as naturally occurring microorganisms, insecticides naturally derived from plants, or one of a few approved synthetic substances. Maintaining Identity and Integrity of Organic Crops: Organic crop producers are responsible for preventing contact between organic and conventionally-grown crops, as well as contact with prohibited pesticides or fertilizers. Split operations (farms that raise both organic and conventional crops) must make sure that organic crops don’t contact prohibited substances through accidental sprays of conventional agrochemicals, spray drift, or residues on equipment from non-organic fields. Source : USDA Organic /AMS
Yorumlar